KETA การอนุญาตการเดินทางอิเล็กทรอนิกส์: ขั้นตอนที่จำเป็นสำหรับชาวต่างชาติที่เข้าสู่เกาหลีโดยไม่ต้องมีวีซ่า

บทนำ: กุญแจสำคัญสำหรับชาวต่างชาติผู้เดินทางไปเกาหลี – K-ETA

เกาหลีใต้ได้นำระบบการอนุมัติการเดินทางด้วยอิเล็กทรอนิกส์ (K-ETA) มาใช้เพื่อจัดการการเข้าประเทศของชาวต่างชาติจากประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า ระบบนี้ถูกเสนอขึ้นเพื่อเพิ่มความปลอดภัยและทำให้กระบวนการเข้าประเทศมีความสะดวกยิ่งขึ้น ด้วยการคาดการณ์เจตนาการเดินทางของผู้เข้าชมที่ได้รับการยกเว้นวีซ่า โดยเริ่มใช้จริงในปี 2564 K-ETA ได้รับความสนใจจากนักเดินทางต่างชาติหลายคนที่ต้องการเยือนเกาหลี โดยเฉพาะเมื่อการเดินทางระหว่างประเทศฟื้นตัวขึ้นอีกครั้งหลังโควิด-19

ภาพรวมและฐานกฎหมายของ K-ETA

K-ETA เป็นระบบที่กำหนดให้ชาวต่างชาติจากประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่าต้องได้รับการอนุมัติล่วงหน้าก่อนเข้าประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งคล้ายคลึงกับระบบ ESTA ของสหรัฐอเมริกาและโปรแกรม eTA ของแคนาดา โดย K-ETA มีเป้าหมายในการเสริมสร้างความปลอดภัยและการจัดการต่างชาติผู้เข้าประเทศโดยการเก็บรวมรวมและประเมินข้อมูลจากนักท่องเที่ยวที่ได้รับการยกเว้นวีซ่าล่วงหน้า

คุณสมบัติสำหรับการขอ K-ETA

ตั้งแต่ปี 2568 K-ETA จะใช้กับพลเมืองจากทั้งหมด 112 ประเทศ ในจำนวนนี้ 67 ประเทศมีสิทธิ์ภายใต้โปรแกรมการยกเว้นวีซ่า (B-1) และ 45 ประเทศจัดอยู่ในหมวดการขนส่งเพื่อการท่องเที่ยว (B-2) ตัวอย่างที่น่าสนใจได้แก่ สหรัฐอเมริกา แคนาดา ญี่ปุ่น และฝรั่งเศส K-ETA จะใช้ได้กับชาวต่างชาติที่เข้ามาเพื่อพักสั้น ๆ ในวัตถุประสงค์ต่าง ๆ เช่น การท่องเที่ยว การเยี่ยมครอบครัว การเดินทางธุรกิจระยะสั้น หรือการเข้าร่วมประชุม อย่างไรก็ตาม บุคคลดังต่อไปนี้จะได้รับการยกเว้นจากกระบวนการขอ:

  • ผู้ถือหนังสือเดินทางทางการหรือทางการทูต
  • ผู้ถือหนังสือเดินทางของสหประชาชาติ
  • ผู้ถือบัตร APEC Business Travel Card (ABTC)
  • สมาชิกชิปการบินหรือทะเล
  • ชาวต่างชาติที่อายุน้อยกว่า 17 ปีหรือตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป

กระบวนการและข้อกำหนดในการขอ K-ETA

นักเดินทางต่างชาติสามารถขอ K-ETA ได้ผ่าน เว็บไซต์ K-ETA อย่างเป็นทางการ หรือแอปพลิเคชันที่กำหนด โดยแนะนำให้ทำการสมัครอย่างน้อย 72 ชั่วโมงก่อนที่จะขึ้นเครื่องบินหรือเรือ โดยสามารถทำการสมัครได้ในฐานะแขก (โดยใช้การยืนยันอีเมล) หรือโดยการสร้างบัญชี ขณะที่การสมัครกลุ่มจะจำกัดเฉพาะบริษัทท่องเที่ยวและสถาบันการแพทย์

ข้อมูลสำคัญที่ต้องระหว่างการสมัคร

  • รายละเอียดหนังสือเดินทางที่ถูกต้อง
  • ที่อยู่อีเมลส่วนตัว
  • บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต (เพื่อชำระเงิน 10,000 วอน)
  • ไฟล์รูปถ่ายขนาดหนังสือเดินทาง

สรุปขั้นตอนการสมัครอย่างรวดเร็ว

  1. เข้าถึงเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน
  2. สมัครสมาชิกหรือตรวจสอบอีเมล์ของคุณ
  3. ป้อนข้อมูลหนังสือเดินทางและข้อมูลการเดินทาง
  4. ชำระเงินและส่งใบสมัคร
  5. รับผลการอนุมัติผ่านอีเมลภายใน 72 ชั่วโมง

ผลการอนุมัติและระยะเวลาที่ใช้ได้

โดยทั่วไปแล้ว ผู้สมัครจะได้รับการแจ้งผลการสมัครผ่านอีเมลภายใน 72 ชั่วโมง K-ETA ที่ได้รับการอนุมัติสามารถใช้งานได้สูงสุดถึงสามปี ในช่วงเวลานี้ นักเดินทางสามารถเข้าประเทศเกาหลีใต้ได้อีกครั้งด้วยหนังสือเดินทางเดียวกันโดยไม่ต้องขอใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นักเดินทางที่ได้รับการอนุมัติ K-ETA จะได้รับการยกเว้นจากกระบวนการประกาศการเข้าประเทศมาตรฐาน ทำให้การเข้าประเทศเป็นไปอย่างราบรื่น อย่างไรก็ตาม หากมีการเปลี่ยนแปลงในหนังสือเดินทาง ประวัติอาชญากรรม หรือข้อมูลเกี่ยวกับโรคติดเชื้อ หรือหากมีข้อมูลที่กรอกผิด จำเป็นต้องสมัครใหม่

ข้อพิจารณาที่สำคัญเกี่ยวกับ K-ETA

K-ETA ไม่ใช่แค่การสมัครออนไลน์ง่าย ๆ แต่มันคือระบบการประเมินล่วงหน้าก่อนเข้าประเทศ หากใบสมัครถูกปฏิเสธ การเข้าประเทศจะถูกห้ามโดยไม่มีการแจ้งเหตุผลเฉพาะ และผู้สมัครจะต้องขอวีซ่าอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้ หากมีการเปลี่ยนแปลงในแผนการเดินทางหรือรายละเอียดการติดต่อ นักเดินทางจำเป็นต้องอัปเดตข้อมูลของตนในเว็บไซต์ K-ETA เพื่อหลีกเลี่ยงความล่าช้าที่ไม่จำเป็นที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง สำหรับผู้ที่วางแผนจะเดินทางไปเกาหลี K-ETA เป็นขั้นตอนที่สำคัญ โดยไม่สนใจข้อกำหนดนี้ แม้จะอยู่ในระยะสั้นอาจนำไปสู่การถูกปฏิเสธการขึ้นเครื่องหรือการเข้าประเทศ ดังนั้นการทำความเข้าใจคุณสมบัติ เกณฑ์การสมัคร ระยะเวลาที่ใช้ได้ และความสำคัญของการรักษาข้อมูลให้เป็นปัจจุบันจึงเป็นสิ่งสำคัญ

รัฐบาลเกาหลีใต้กำลังทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อปรับปรุงระบบ K-ETA และคาดว่าจะเพิ่มความแม่นยำในการประเมินสำหรับผู้เข้าชมตามวัตถุประสงค์พิเศษเช่น นักท่องเที่ยวทางการแพทย์และผู้เข้าร่วมการประชุมหรือการแสดงต่าง ๆ

ข้อมูลอ้างอิงและติดต่อ

เว็บไซต์ K-ETA อย่างเป็นทางการ: https://www.k-eta.go.kr ข้อมูลนี้เป็นข้อมูลที่ถูกต้อง ณ เวลาที่เขียน และนโยบายของรัฐบาลอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต ซึ่งเป็นข้อมูลเพื่อการศึกษาเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำด้านกฎหมายหรือการตีความ หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ กระดานปรึกษา 1:1